Author Topic: ขอถามเรื่องราคารถนำเข้าหน่อยครับ  (Read 6849 times)

Offline ชัย08

  • Full Member All Thailand Championship Racer
  • ***
  • Posts: 112
  • ทำวันนี้ให้ดีกว่าเมื่อวาน เพราะวันนี้คือวันพรุ่งนี
สวัสดีครับพี่ๆ อยากรู้ว่ากรมศุลกากรคิดยังไงครับ ระหว่าง
         1.ผมบินไปญึ่ปุ่นแล้วซื้อรถแล้วให้สำนักแต่งที่ญี่ปุ่นแต่งให้แล้วนำเข้ามา
         2.ซื้อที่สำนักเค้าแต่งแล้วนำเข้ามา
         3.ซื้อที่เมืองไทยแล้วส่งไปทำที่เมืองนอก (เอารถลงเรือไปอันนี้เป็นไปได้หรือเปล่าครับ)

     ขอบคุณครับ :)

ปล.พี่ๆ ครับค่าแรง เช็คความร้อน,เปลี่ยนวาวล์น้ำ,โอริงวาวล์น้ำ,เช็คเพาเวอร์มีเสียงดัง,เปลี่ยนปั้มเพาเวอร์ (รถBMW) โดนไป 800 แพงไหมครับพี่ :'(  ยังไม่รวมค่าซ่อมเกียร์ออโต้เลยครับ

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
ค่าแรงถูกมาก (สำหรับแรงงานฝีมือดี)

เรื่องรถนำเข้า ขอรายละเอียดได้ที่กรมศุลกากรครับ ผมขอคัดลอกเฉพาะใจความมาดังนี้


 
     การนำเข้ายานพาหนะส่วนบุคคลชั่วคราว
  การนำเข้ายานพาหนะส่วนบุคคลแบบถาวร  



1. การนำเข้ายานพาหนะส่วนบุคคลชั่วคราว

         รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เรือสำราญและกีฬา หรือเรือประมงที่เจ้าของนำเข้ามาพร้อมกับตนเป็นการชั่วคราวและจะส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักรภายใน 6 เดือนจะได้รับการยกเว้นอากรขาเข้า โดยผู้ที่ประสงค์จะนำยานพาหนะส่วนบุคคลประเภทรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เรือสำราญและกีฬา หรือเรือประมง เข้ามาพร้อมกับตนเองเป็นการชั่วคราวต้องปฏิบัติตามหลักเกณ์และเงื่อนไขที่กรมศุลกากรกำหนดไว้ให้ครบถ้วน

1.1 เอกสารที่ควรจัดเตรียมในการนำเข้ายานพาหนะส่วนบุคคลชั่วคราว

     (1)  ใบขนสินค้าพิเศษและมีสำเนา 5 ฉบับ
     (2)  ทะเบียนยานพาหนะ
     (3)  บัตรประจำตัวและหนังสือเดินทางของผู้ควบคุมยานพาหนะ
     (4)  หนังสือมอบอำนาจ กรณีผู้ควบคุมยานพาหนะมิใช่เจ้าของ
     (5)  คำร้องขอนำรถเข้ามาเพื่อการท่องเที่ยวเป็นการชั่วคราว
     (6)  หลักฐานการซื้อขาย เช่น Proforma Invoice, Invoice
     (7)  สำเนาหนังสือรับรองนิติบุคคล
     (8)  สัญญาประกันการส่งกลับ
     (9)  เอกสารอื่น ๆ (ถ้ามี)

1.2 ขั้นตอนการปฏิบัติพิธีการนำเข้าชั่วคราวยานพาหนะส่วนบุคคล

     (1) ผู้นำเข้าหรือตัวแทนยื่นใบขนสินค้าพร้อมเอกสารประกอบต่อฝ่ายเอกสิทธิ์และส่งเสริมการลงทุน ส่วนการนำเข้า ของสำนักงานหรือด่านศุลกากรที่นำเข้า กรณีมีสิ่งของอื่นหรือผู้โดยสารและสิ่งของติดตัวผู้โดยสารเข้ามาพร้อมกับยานพาหนะ ผู้นำเข้าหรือตัวแทนต้องแจ้งกรมศุลกากรด้วย

     (2) กรมศุลกากรตรวจสอบข้อมูลในใบขนสินค้าและเอกสารประกอบ หากเอกสารถูกต้องครบถ้วนแล้ว จะออกเลขที่ใบขนสินค้า และกำหนดวงเงินค้ำประกันสำหรับการนำเข้านั้น ๆ

     (3) ผู้นำเข้าหรือตัวแทนนำหลักประกัน (เงินสดหรือ ธนาคารค้ำประกัน) ไปชำระที่ฝ่ายบัญชีและอากร

     (4) ผู้นำเข้าหรือตัวแทนนำหลักฐานการวางประกันมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากร

     (5) กรมศุลกากรจะตรวจยานพานะและสิ่งของติดตัวผู้โดยสาร เมื่อเสร็จสิ้นแล้ว จะมอบสำเนาใบขนสินค้าพิเศษ ให้ผู้นำเข้าไว้ 1 ฉบับ เพื่อใช้กำกับยานพาหนะและแสดงต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากรเมื่อนำยานพาหนะออกไปนอกประเทศไทย

1.3 ขั้นตอนการปฏิบัติพิธีการส่งออกยานพาหนะส่วนบุคคล

     (1) ผู้ส่งออกยื่นใบขนสินค้าพิเศษที่กรมศุลกากรออกให้ขณะนำเข้าและสำเนา 1 ฉบับ พร้อมกับแบบธุรกิจต่างประเทศ (ธ.ต.1) 1 ฉบับ แก เจ้าหน้าที่ศุลกากร

     (2) กรมศุลกากรจะตรวจยานพาหนะและสิ่งของติดตัวผู้โดยสาร เมื่อเสร็จสิ้นแล้วจะถอนประกันทัณฑ์บนที่ผู้นำเข้าทำไว้กับกรมศุลกากรขณะนำเข้า

1.4 ข้อควรทราบในการนำเข้าชั่วคราวยานพาหนะส่วนบุคคล

     (1) หากผู้นำเข้าไม่นำรถกลับออกไปในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญาประกันทัณฑ์บน กรมศุลกากรจะบังคับสัญญาทัณฑ์บนเต็มจำนวนที่กำหนดไว้โดยไม่มีการลดหย่อนทั้งสิ้น

     (2) กรณีผู้นำเข้าต้องการขอขยายเวลาการนำรถออกนอกประเทศไทยตามที่ระบุไว้ในสัญญาประกันทัณฑ์บน ก็สามารถขอขยายเวลากับกรมศุลกากรได้อีกแต่ไม่เกิน 6 เดือน เว้นแต่ในกรณีที่จำเป็น เช่น เครื่องยนต์เสีย หรือรถยนต์ถูกชนต้องเสียเวลาในการซ่อม ก็อาจขยายเวลาออกไปให้เกินกว่า 6 เดือนได้ แต่รวมแล้วต้องไม่เกิน 8 เดือน นับแต่วันนำเข้า

     (3) การประกันและการค้ำประกัน
              ผู้นำเข้าสามารถวางประกันด้วยเงินสด หรือหนังสือค้ำประกันของธนาคาร แต่สำหรับรถจักรยานยนต์ที่นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศนำเข้าทางสำนักงานศุลกากรนำเข้าท่าเรือกรุงเทพ สำนักงานศุลกากรกรุงเทพ สำนักงานศุลกากรท่าอากาศยานกรุงเทพ ให้ค้ำประกันตนเองได้
              ในกรณีที่ผู้นำเข้าไม่สามารถจะวางประกันด้วยเงินสด หรือหนังสือค้ำประกันของธนาคารได้จริงๆ กรมศุลกากรก็อาจพิจารณาอนุมัติให้ผู้นำเข้าค้ำประกันตนเองได้
              การกำหนดเงินประกันและเงินค้ำประกัน กรมศุลกากรจะกำหนดโดยถือตามราคาบวกค่าภาษีอากรทุกประเภทของรถที่นำเข้าเป็นยอดเงินประกัน

     (4) การบังคับตามสัญญาประกัน
              เมื่อครบกำหนดตามที่ระบุไว้ในสัญญาประกัน หรือผู้นำของเข้าได้แสดงความจำนงก่อนครบกำหนดดังกล่าวว่าไม่ประสงค์จะนำรถกลับออกไป กรมศุลกากรจะบังคับสัญญาประกันเต็มตามจำนวนที่กำหนดไว้โดยไม่มีการลดหย่อนใดๆ ทั้งสิ้น
              ในกรณีที่มีผู้นำรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์เข้ามาในประเทศทางเขตแดนทางบกเป็นการชั่วคราวและจะนำกลับออกไป แต่นำกลับออกไปไม่ทันภายในเวลาที่กำหนดตามที่ระบุไว้ในสัญญาประกัน โดยไม่มีเจตนาฝ่าฝืนการปฏิบัติตามสัญญาประกันนั้น ผู้นำเข้าจะต้องชำระค่าปรับวันละ 100 บาท นับจากวันที่ครบกำหนดในสัญญาประกัน แต่ไม่เกิน 1,000 บาท
              ในกรณีที่ผู้นำเรือเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว และจะนำกลับออกไป แต่นำกลับออกไปไม่ทันภายในเวลาที่กำหนดตามที่ระบุไว้ในสัญญาประกัน โดยไม่มีเจตนาฝ่าฝืนการปฏิบัติตามสัญญาประกันนั้น ผู้นำเข้าจะต้องชำระค่าปรับวันละ 500 บาท นับจากวันที่ครบกำหนดในสัญญาประกัน แต่ไม่เกิน 5,000 บาท

     (5) คำว่า “เรือสำราญและกีฬา” หมายถึง เรือที่ใช้สำหรับหาความสำราญ หรือเรือที่ใช้เพื่อการเล่นกีฬาโดยเฉพาะ และไม่ได้ใช้เพื่อการค้า การทหาร หรือการค้นคว้าทางวิทยาศาสตร ์เรือสำราญและกีฬาหรือเรือประมงที่เข้ามาจากต่างประเทศนั้น นายเรือจะต้องมารายงานเรือเข้าเช่นเดียวกับเรือทั้งหลายที่มาจากต่างประเทศ ส่วนเรือสำราญและกีฬาหรือเรือประมงที่เดินทางไปต่างประเทศ จะต้องยื่นใบสำแดงรายงานเรือออก และขอรับใบปล่อยเรือขาออกจากกรมศุลกากรด้วย

1.5 ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

      ชาวไทยและชาวต่างประเทศที่มีความประสงค์จะขอทราบรายละเอียดพิธีการนำเข้ายานพาหนะส่วนบุคคลชั่วคราว สามารถติดต่องานพิธีการ ฝ่ายเอกสิทธิและส่งเสริมการลงทุน ส่วนพิธีการนำเข้า สำนักงานศุลกากรนำเข้าท่าเรือกรุงเทพ หรือ ฝ่ายเอกสิทธิและส่งเสริมการลงทุน ส่วนพิธีการนำเข้า สำนักงานศุลกากรท่าอากาศยานกรุงเทพ หรือสำนักงาน/ด่านศุลกากรที่นำเข้าทุกแห่งในวันและเวลาราชการ
 

2. การนำเข้ายานพาหนะส่วนบุคคลแบบถาวร

         การนำเข้ารถยนต์ส่วนบุคคลหากในลักษณะนี้ผู้นำเข้าจะต้องชำระค่าภาษีอากรตามปกติ หากเป็นรถยนต์ใหม่ก็ให้ปฏิบัติพิธีการนำเข้าเช่นเดียวกับการนำเข้าสินค้าอื่น ๆ แต่หากเป็นรถยนต์นั่งเก่าใช้แล้วจะถือเป็นสินค้าควบคุมการนำเข้ามาในประเทศไทย ในหลักการไม่อนุญาตให้นำเข้า เว้นแต่เป็นการนำเข้าชั่วคราวหรือการนำเข้าเฉพาะตัวที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดไว้เท่านั้น

2.1 หลักเกณฑ์การนำเข้ารถยนต์นั่งเก่าใช้แล้วแบบถาวร

     (1) นำเข้ามาใช้ได้เองเพียงคนละ 1 คัน

     (2) กรณีเป็นชาวต่างประเทศจะต้องเป็นผู้ที่จะเข้ามาอยู่ในประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 1 ปี โดยมีหนังสืออนุญาตการเข้าเมืองจากกองตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และใบอนุญาตทำงานของกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมมาแสดงในการนำเข้าด้วย

     (3) กรณีชาวไทยมีคู่สมรสเป็นชาวต่างประเทศ จะต้องมีหลักฐานแสดงว่าเป็นคู่สมรสและนำรถยนต์เข้ามาเพื่อมีภูมิลำเนาในประเทศไทย รวมทั้งผู้นำเข้าต้องถือกรรมสิทธิ์หรือครอบครองรถยนต์คันนั้นระหว่างอยู่ในต่างประเทศไม่น้อยกว่า 1 ปี 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์จนถึงวันที่เดินทางเข้ามาอยู่ในประเทศไทย

     (4) กรณีเป็นชาวไทย ต้องเป็นชาวไทยที่ไปอยู่ต่างประเทศติดต่อกันเป็นเวลาเกินกว่า 1 ปี 6 เดือน แล้วเดินทางกลับมามีภูมิลำเนาในประเทศไทย และถือกรรมสิทธิ์ครอบครองรถยนต์คันนั้นอยู่ในระหว่างอยู่ต่างประเทศไม่น้อยกว่า 1 ปี 6 เดือนและมีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์

2.2 เอกสารที่ควรจัดเตรียมการนำเข้ารถยนต์แบบถาวร

     (1) เอกสารทั่วไป
              ใบขนสินค้าขาเข้า ประกอบด้วยต้นฉบับและสำเนา 1 ฉบับ
              ใบตราส่งสินค้า (Bill of Lading or Air Waybill)
              เอกสารการซื้อขายรถยนต์ (ถ้ามี)
              ใบสั่งปล่อยสินค้า (กศก.100/1)
              แบบธุรกิจต่างประเทศ (Foreign Transaction Form) กรณีสินค้านำเข้ามีราคา CIFเกิน 500,000 บาท
              ใบแจ้งยอดเบี้ยประกัน (Insurance Premium Invoice)
              เอกสารอื่น ๆ เช่น หนังสือมอบอำนาจ
     (2) เอกสารเพิ่มเติมกรณีเป็นรถยนต์เก่าใช้แล้ว
              ทะเบียนบ้านและบัตรประจำตัวประชาชน
              หนังสือเดินทาง กรณีย้ายภูมิลำเนา
              ทะเบียนรถยนต์ที่จดทะเบียนการใช้งานที่ต่างประเทศมาแล้ว
              ใบอนุญาตการนำเข้าจากกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์

2.3 ขั้นตอนปฏิบัติพิธีการ

     (1) ผู้นำเข้าหรือตัวแทนยื่นใบขนสินค้าพร้อมเอกสารประกอบต่อฝ่ายการนำเข้าที่ 4 ส่วนการนำเข้า สำนักงานศุลกากรนำเข้าท่าเรือกรุงเทพ หรือสำนักงาน/ด่านศุลกากรที่นำเข้า

     (2) กรมศุลกากรตรวจสอบข้อมูลในใบขนสินค้าและเอกสารประกอบ หากเอกสารถูกต้องครบถ้วนแล้ว จะออกเลขที่ใบขนสินค้า และประเมินค่าภาษีอากรที่ผู้นำเข้าจะต้องชำระ

     (3) ผู้นำเข้าหรือตัวแทนไปชำระเงินค่าภาษีอากรที่ฝ่ายบัญชีและอากร

     (4) ผู้นำเข้าหรือตัวแทนนำหลักฐานการชำระเงินมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ส่วนตรวจสินค้าเพื่อรับของออกจากอารักขาศุลกากร

2.4  หลักเกณฑ์การประเมินอากร

     (1)   กรมศุลกากรกำหนดเกณฑ์การประเมินราคาโดยใช้ราคา  CIF    ( ราคา + ค่าประกันภัย+ค่าขนส่ง ) เป็นฐานการประเมินอากรนำเข้า
     (2)   ราคารวมค่าภาษี เป็นราคาที่รวมการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีสรรพสามิต ( ถ้ามี ) เข้าไว้  ณ. วันที่ชำระค่าภาษีรถยนต์
     (3)   กรณีที่เป็นรถยนต์เก่าใช้แล้ว จะกำหนดส่วนลดตามระยะเวลาที่จดทะเบียน
     (4)  หลักเกณฑ์และวิธีการคำนวณค่าภาษีอากร   เป็นไปตามที่กรมศุลกากรประกาศกำหนดไว้ชัดเจน

2.5 ตารางแสดงอัตราภาษีอากร



ประเภทรถยนต์ ขนาดปริมาตรช่วงชักภายใน
กระบอกสูบ อากร
(%) สรรพสามิต
(%)
(ตัวคูณ) ภาษีเพื่อ
มหาดไทย*
(%) VAT
(%) อัตราอากร
รวม (%)
ของ CIF
  1. รถยนต์นั่งส่วนบุคคล    -  ไม่เกิน 2400 ซีซี


  -  เกิน 2400 ซีซี แต่ไม่เกิน 3000 ซีซี
  และมีกำลังไม่เกิน 220 แรงม้า


  -  ไม่เกิน 3000 ซีซี หรือมีกำลังเกิน
  220 แรงม้า  80


80


80  35
(0.5691057)

42
(0.7468124)


48
(1.0169492)  10


10


10  7


7


7  213.171


250.82


308.051  
  2. รถยนต์นั่งตรวจการณ์
  (OFF ROAD)
  ตามประกาศกระทรวง-
  การคลัง    -  ไม่เกิน 2400 ซีซี


  -  เกิน 2400 ซีซี แต่ไม่เกิน 3000 ซีซี
  และมีกำลังไม่เกิน 220 แรงม้า  80


80  29
(0.4258443)

29
(0.4258443)  10


10  7


7  182.819


182.819  
                        *  ภาษีเพื่อมหาดไทยจะคิดเป็น 10 % ของภาษีสรรพสามิต
     วิธีคิดอัตราอากรรวมของรถยนต์นั่งส่วนบุคคลขนาดปริมาตรช่วงชักภายในกระบอกสูบ ไม่เกิน 2400 ซีซี
   ถ้าราคา CIF ของรถยนต์นั่ง
 = 100
  อากรขาเข้า
 = 80%
  ภาษีสรรพสามิต
 = 35%
  ภาษีเพื่อมหาดไทย
 = 10%
  ภาษีมูลค่าเพิ่ม
 = 7%

    วิธีคำนวณ
      1. อากรขาเข้า  =  (ราคา CIF x อัตราอากรขาเข้า)
=  (100 x 0.8)
=  80  
      2. ภาษีสรรพสามิต  =  (ราคา CIF + อากรขาเข้า) x อัตราภาษีสรรพสามิต/ 1-(1.1 x อัตราภาษีสรรพสามิต)
=  (100 + 80) x 0.35/ 1-(1.1 x 0.35)
=  180 x 0.5691057
=  102.439  
      3. ภาษีเพื่อมหาดไทย  =  ภาษีสรรพสามิต x อัตราภาษีเพื่อมหาดไทย
=  102.439 x 0.1
=  10.2439  
      4. ฐานภาษีมูลค่าเพิ่ม  =  ราคา CIF + อากรขาเข้า + ภาษีสรรพสามิต + ภาษีเพื่อมหาดไทย
=  100 + 80 + 102.439 + 10.2439
=  292.6829  
      5. ภาษีมูลค่าเพิ่ม  =  ฐานภาษีมูลค่าเพิ่ม x อัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม
=  292.6829 x 0.07
=  20.4878  

รวมอัตราอากรทั้งหมด = 1 + 2 + 3 + 5 = 213.171  


 2.6 ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

     ชาวไทยและชาวต่างประเทศที่มีความประสงค์จะขอทราบรายละเอียดพิธีการนำเข้ายานพาหนะส่วนบุคคลแบบถาวร สามารถติดต่อฝ่ายการนำเข้า ส่วนการนำเข้า สำนักงานศุลกากรนำเข้าท่าเรือกรุงเทพ หรือฝ่ายเอกสิทธิและส่งเสริมการลงทุน ส่วนการนำเข้า สำนักงานศุลกากรท่าอากาศยานกรุงเทพ หรือสำนักงาน/ด่านศุลกากรที่นำเข้าทุกแห่งในวันและเวลาราชการ  
 
 
source : custom.go.th
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline O'Pern

  • fear is a mind killer
  • Administrator
  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 7411
  • don't let your fear stand in the way of your dream
    • racing club
สวัสดีครับพี่ๆ อยากรู้ว่ากรมศุลกากรคิดยังไงครับ ระหว่าง
         1.ผมบินไปญึ่ปุ่นแล้วซื้อรถแล้วให้สำนักแต่งที่ญี่ปุ่นแต่งให้แล้วนำเข้ามา
         2.ซื้อที่สำนักเค้าแต่งแล้วนำเข้ามา
         3.ซื้อที่เมืองไทยแล้วส่งไปทำที่เมืองนอก (เอารถลงเรือไปอันนี้เป็นไปได้หรือเปล่าครับ)

     ขอบคุณครับ :)

ปล.พี่ๆ ครับค่าแรง เช็คความร้อน,เปลี่ยนวาวล์น้ำ,โอริงวาวล์น้ำ,เช็คเพาเวอร์มีเสียงดัง,เปลี่ยนปั้มเพาเวอร์ (รถBMW) โดนไป 800 แพงไหมครับพี่ :'(  ยังไม่รวมค่าซ่อมเกียร์ออโต้เลยครับ

1 ก็จะเสียภาษีมากขึ้น
2 ก็เสียเงินพอๆ กัน แพงมากน้อย แล้วแต่ของแต่ง
3 เป็นไปได้ มีเศรษฐีทำกัน
 
i drive / i race / i test / I drift
I row / I run / I fun / I ride

Offline ชัย08

  • Full Member All Thailand Championship Racer
  • ***
  • Posts: 112
  • ทำวันนี้ให้ดีกว่าเมื่อวาน เพราะวันนี้คือวันพรุ่งนี
ขอบคุณครับพี่เปิ้ล :)

Offline Mokan

  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 771
  • Winning isn't everything, it's the ONLY thing!!!
สำนักแต่งในบ้านเราดีๆมีพอสมควรนะ ไม่ต้องไปถึงญี่ปุ่นก้อได้ เพราะในญี่ปุ่นนั้น สำนักแต่ง"ข้างถนน"ก้อเยอะพอๆกันกับบ้านเรานั่นแหละ ไม่ใช่ว่าเขาเป็นแหล่งผลิตแล้วเขาจะใช้ของดีกันนักหรอกนะขอบอก สำนักแต่งดีๆนั้นมีแน่ และคงแพงหูดับตับไหม้ แต่ถ้าต้องการรถแต่งดีๆถึงขั้นจะเอามาจากนอกหรือเอาออกไปแต่งข้างนอกละก้อ ไม่ต้องลำบากหรอกหนูเอ๋ย ทำในบ้านเราก้อได้ เพราะแสดงว่าราคาแพงขนาดไหนก้อจ่ายได้นี่...จริงไม๊ อุปกรณ์แต่งเครื่องนั้น ไม่ใช่มีเฉพาะในญี่ปุ่น ในประเทศอื่นๆก้อมีและอาจจะมีมากกว่าด้วยซ้ำ ถ้าเงินไม่ใช่ปัญหา อย่าจำกัดตัวเองโดนอาศัยของจากญี่ปุ่นอย่างเดียว เพราะมันไม่ได้เก่งไปกว่าเรานักสำหรับเรื่องแต่งรถในระดับที่เราเล่นกันอยู่ การแต่งเครื่องยนต์นั้น มันอยู่ที่การเลือกของ และการประกอบ ที่เราเห็นญี่ปุ่นเป็นเทวดากันอยู่นั้น เพราะเราไม่เคยเห็นไอ้ที่มันเก่งกว่า ซึ่งในความเป็นจริงแล้วนั้น ญี่ปุ่นนั้นเพียง"ขี้เล็บ"แค่นั้นเอง
In racing, you either lead or follow or GETTA HELL OUT OF THE WAY!!!!

Offline ชัย08

  • Full Member All Thailand Championship Racer
  • ***
  • Posts: 112
  • ทำวันนี้ให้ดีกว่าเมื่อวาน เพราะวันนี้คือวันพรุ่งนี
ขอบคุณครับพี่ เพิ่งเปิดโลกกว้างครับพี่ เพราะผมเห็นญี่ปุ่นเค้าเก่งที่สุดอะไรประมาณนี้
  พี่ครับผมอยากรู้ว่า ถ้าHKS เค้าไปเปิดหลายประเทศ มาตรฐานเค้าจะเหมือนกันไหมคับ (เช่นประเทศไทย) แล้วเค้าจะชัวร์หรือเปล่าในสิ่งที่เค้าประกอบ แล้วอย่างพวกของแต่งเค้าจะทำในประเทศไทยหรือปล่าวครับหรือ import จากญี่ปุ่นโดยตรงครับ (เพราะว่าเนื้อวัสดุมันไม่เหมือนกันอ่ะครับ)

         

Offline Mokan

  • Authentic Drifter
  • *****
  • Posts: 771
  • Winning isn't everything, it's the ONLY thing!!!
HKS ไม่ว่าจะที่ไหนจะหอบหิ้วเอาของตัวเองไปขายตลอดล่ะครับ อย่าง turbo ตัวละแสนกว่าที่ขายนี่คงไม่ทำในไทยแน่ๆ เพราะยังไม่มีโรงงานที่ไหนกล้าทำ แต่ของ HKS นั้นมีอยู่เกลื่อนเมือง หาได้ไม่ยาก ไม่จำเป็นต้องไปที่ตัวแทน HKS ก้อได้ ส่วนเรื่อง"คนงาน"นั้น คนไทยนี่แหละ เพราะขืนจ้างทั้งทีมจากญี่ปุ่นร้านคงเจ๊งเพราะไม่มีเงินจะเลี้ยงมัน เรื่อง"ฝีมือ"นั้น ก้อ...ถ้า"ลูกพี่"ทำ ก้อมักจะดี ถ้า"ลูกน้อง"ทำก้อ...cross your finger มันก้ออยู่ที่ลูกพี่และลูกน้องนั้นผ่านการอบรมจาก HKS มากี่ปี แต่ส่วนมากแล้วจะไม่กี่เดือน แต่งานโปรโมชั่นเขาดี ขยันเอารถมาโชว์ เอามาวิ่งให้ดู(แต่พังทุกครั้ง) ให้เด็กๆน้ำลายยืดกันเล่น เด็กๆเลยชอบบบบบ....อะไรๆก้อต้อง HKS ซื้อรถมาหกแสน ใส่ HKS เข้าไปอีกหกแสน.....แรงงงง(รึป่าวก้อไม่รู้)
In racing, you either lead or follow or GETTA HELL OUT OF THE WAY!!!!

Offline ชัย08

  • Full Member All Thailand Championship Racer
  • ***
  • Posts: 112
  • ทำวันนี้ให้ดีกว่าเมื่อวาน เพราะวันนี้คือวันพรุ่งนี
ขอบคุณครับ :)
   ตอบได้โดนใจมากเลยครับ "ขยันเอารถมาโชว์ เอามาวิ่งให้ดู(แต่พังทุกครั้ง) ให้เด็กๆน้ำลายยืดกันเล่น เด็กๆเลยชอบบบบบ....อะไรๆก้อต้อง HKS ซื้อรถมาหกแสน ใส่ HKS เข้าไปอีกหกแสน.....แรงงงง(รึป่าวก้อไม่รู้) "