มารู้จักoversteer กับ understeer กันเหอะ ใครมีอะไรเพิ่มเติมเชิญได้นะ

[กวาง Taohookung]

taohookung มาบอกความหมายของover/under steer ให้เพื่อนๆลองอ่านดูนะ  ก็คืออาการของรถที่เรียกว่า โอเวอร์สเตียร์ (oversteer) หรือ อันเดอร์สเตียร์ (understeer) เนี้ยคืออาการที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ขณะที่รถเข้าโค้ง จำง่ายๆก็คือ โอเวอร์สเตียร์ คือ อาการที่ด้านท้ายของรถเกิดการปัด และ พยายามจะแซงขึ้นหน้า ขณะที่ด้านหน้ารถกำลังเข้าโค้งอยู่ ส่วน อันเดอร์สเตียร์ ก็คือ การที่รถเข้าโค้งผ่านไปได้โดยที่รถเหมือนจะหนีจากศูนย์กลางออกไป

อาการอันเดอร์สเตียร์ ดูจะไม่ใช่เรื่องใหญ่นัก เพราะเมื่อรถลดระดับความเร็วลงจากเดิม อาการที่ว่านี้ก็จะหายไป หรือ ไม่ปรากฏ และรถในปัจจุบันนี้ก็สามารถกำหนดได้ว่าจะให้ค่าของการอันเดอร์สเตียร์อยู่ที่ลิมิตเท่าไหร่ ขณะที่ โอเวอร์สเตียร์ ดูจะควบคุมได้ยากกว่า อันเดอร์สเตียร์

อย่างไรก็ดีหากเป็นนักแข่งที่มีความชำนาญมากๆ นักแข่งเหล่านี้สามารถใช้ประโยชน์จากการ โอเวอร์สเตียร์ ได้เช่นกัน เมื่อสามารถจะทำความเร็วก่อนเข้าโค้งได้เพิ่มขึ้น

ปกติแล้วสเต็ปขณะที่รถแข่งเข้าโค้งนั้นแบ่งออกเป็น 3 ช่วงด้วยกันประกอบด้วย turn-in, apex และ exit

[Trafficker]

โอ คับผม ดริฟท์ติ้งซิ่งสายฟ้า

[Trafficker]

Underที่เสียวน๊านนนนนานนนเลยเนอะคับ

[Net]

ง่ายๆเลย
under ขับล้อหน้า
over ขับล้อหลัง

under อาการคือ ดื้อโค้ง เลี้ยวไม่ยอมเข้า
over คือ เข้าโค้งแรงๆแล้วตูดปัด

[iamtul]

ง่ายๆเลย
under ขับล้อหน้า
over ขับล้อหลัง

under อาการคือ ดื้อโค้ง เลี้ยวไม่ยอมเข้า
over คือ เข้าโค้งแรงๆแล้วตูดปัด

มันคืออาการรถครับ รถขับหลังก็อันเดอร์ได้ครับ

 ;)

[GoogGoo]

ง่ายๆเลย
under ขับล้อหน้า
over ขับล้อหลัง

เอาง่ายๆ แต่ไม่ง่ายหน่ะซี เพราะที่บอกมามันผิด...จะขับหน้าขับหลังขับสี่มันก็เกิดได้หมด ขับหน้าอาจจะเกิดOS ยากหน่อยแต่ก็เกิดได้...

ที่บอกว่าปัดหน่ะ ถ้าปัดออกอาจจะเรียกว่า Step Out ก็ได้ แต่OS ไม่จำเป็นต้องปัด แค่ค่อยๆกวาดออกก็เป็น OS ได้แล้ว

[S2]

จริงๆแล้วที่พูดกันอยู่มันเป็นเรื่องของ Yaw rate ของรถว่าจะมากกว่าหรือน้อยกว่า Path ที่รถต้องการจะวิ่งไปแค่นั้นเอง

ถ้านับทวนเข็มนาฬิกา เข้าโค้งซ้าย

Yaw rate มากเกินไป = oversteer

น้อยเกินไป = understeer

 ;)

[wut_mech]

เเล้ว YAW RATE คืออะไรหรอคับ

[S2]

สมมุติว่าวัตถุมันอยู่นิ่งๆเมื่อเทียบกับผู้สังเกตุก่อนอ่ะนะ

ปกติการเคลื่อนที่ของวัตถุในสามมิติมีองค์ประกอบของแรงในสามแนวแกน x y และ z

ถ้าแรงพวกนี้เข้าที่ cg ของวัตถุเลย วัตถุจะเคลื่อนที่แบบ translation ซึ่งแยกออกไปคิดในแนวแกน x y และ z ได้

ในทำนองเดียวกัน ถ้าแรงไม่ได้เข้าที่ cg จะเกิดโมเมนต์ ทำให้วัตถุเคลื่อนที่แบบ rotaion ไปด้วย ซึ่งก็แยกออกไปเป็น rotaion รอบแกน x y และ z ได้อีก

รถยนต์ก็ทำอะไรทำนองนี้เหมือนกัน นอกจากมันจะเดินหน้าถอยหลัง สไลด์ซ้ายขวาและขึ้นลง (สองอันหลังนี่มักจะมากับอย่างอื่นด้วย อิอิ)แบบ translation  มันก็ยังทำการ rotation หน้าทิ่ม-หน้ายก (pitch) เอียงซ้าย-ขวา (roll) และเลี้ยว (yaw) เหมือนๆกับวัตถุปกติ row-pitch-yaw น่าจะเริ่มมาจากทางด้านการบินนะ มันก็แค่เป็นคำพูดแทนอาการของเครื่องบินแค่นั้นเอง

ทีนี้เรื่อง yaw rate มั่ง ถ้าพูดถึง rotaion อย่างแรกๆที่เด็กสายวิทย์นึกออกก็คือเอาลูกมะนาวใส่ถุงเท้าแล้วแกว่งเป็นวงกลม ก็จะมีความเร็วเชิงมุมอยู่ค่านึง - omega ค่านี้เป็นตัวบอกว่าลูกมะนาวหมุนไปรอบๆได้เร็วแค่ไหน แล้วยังเอาไปคำนวนอะไรต่อได้อีกสารพัด yaw rate ก็เหมือนกัน มันบอกว่ารถเลี้ยว(หมุน)เร็วแค่ไหน หมุนไปเร็วกว่าทาง - oversteer หมุนไปช้ากว่าทาง - understeer หรือ หมุนไปในอัตราเดียวกับทาง - neutral  ;D

[wut_mech]

ขอบคุณมากคับ วันนี้ได้ความรู้เพิ่มอีกเเล้วอิอิ

[kijz]

สุดท้ายแล้วอยู่ที่คนขับ
peopleware นี่แหละสำคัญที่สุดในทุกระบบ
ยิ่งกว่า hard ware (อุปกรณ์) หรือ software (การ setting)
จงพัฒนาส่วนนี้เสียก่อน แล้วจะควบคุมได้ทุกอย่าง
ทำรถขัดหน้าหรือขับหลังเดิมๆให้ over หรือ over ก็ได้ แก้ก็ได้(เป็นต้น)
ขึ้นอยู่กับคนขับทั้งนั้น
แต่คนเรามักจะลืม
 

[kijz]

ง่ายๆเลย
under ขับล้อหน้า
over ขับล้อหลัง

มันเป็นอาการ(สันดาน)ของรถเวลาเร่งจน over traction คับ

[Mokan]

อืมม์...เท่าที่ทุกคนบอกกันมา แสดงว่า รู้กันแล้วว่า อาการอย่างไรเรียกว่าอะไร อะไรคือ Oversteer อะไรคือ Understeer ทีนี้มาลองคิดกันดูซิว่า "อะไรที่ทำให้เกิด Understeer หรือ Oversteer?"

หลายๆคนคงเคยอ่านหนังสือประเภท How to be a racing driver ต่างๆ ซึ่งหลายๆเล่มจะมีเรื่อง Racing Lines และอื่นๆรวมทั้ง Oversteer และ Understeer ทั้งนั้น และหลายๆคนจะอ่านถึงแค่ Over เป็นยังไง Under เป็นยังไง แล้วก้อผ่านไปเรื่องอื่นๆ และเรื่องที่มักจะผ่านเลยไปก้อคือ "Slip Angle" ซึ่งมักจะมีรูปหน้ายาง กับ เส้นบอกแรง หรือ Vector ทั้งหลายแหล่ รวมถึงเรื่องค่า % ของ slip angle ฯลฯ ดูแล้วปวดหัวเว้ย ผ่าน.....ประจำ

แต่ Slip Angle เนี่ยแหละ เป็นตัวอธิบายว่า ทำไมจึงเกิด Oversteer และ Understeer ถ้าเอาง่ายๆสั้นๆ จะได้ความว่า "ถ้ายางหน้ามี slip angle มากกว่ายางหลัง จะเกิด Understeer ถ้ายางหลังมี slip angle มากกว่ายางหน้า จะเกิด Oversteer" ทั้งนี้ทั้งนั้น slip angle ของยางมักจะอยู่ที่ 10%........   งงหนักกว่าเดิมไม๊ล่ะทีนี้

อยากฟังต่อไม๊ เพราะมันยาวพอควรแต่ไม่ถึงกับน่าเบื่อและจะทำให้ถึงบางอ้อทันที หรือว่า"ชักหมั่นไส้แม่งละ"จะได้ทิ้งไว้แค่นี้ เอ้า...ไม่ได้ดิ เราต้องเอาเสียงข้างมากเข้าว่า ประชาธิปไตยอ่ะ  

[kijz]

เอาอีก เอาอีก
 ;D ;D ;D

[O'Pern]

เอาอีกๆ

ใครหมั่นไส้ Mokan เดี๋ยวพ่อตบฟ่ำ !!!